วรรค | อักษร | รูปตัวเชิง | ชื่ออักษร | ปริวรรตเป็นอักษรไทย | ปริวรรตเป็นอักษรละติน | สัทอักษร | ไตรยางศ์ | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คำอ่าน | สัทอักษร | พยัญชนะต้น | ตัวสะกด | พยัญชนะต้น | ตัวสะกด | พยัญชนะต้น | ตัวสะกด | |||||
|
ᨠ | ![]() |
◌᩠ᨠ | ก๋ะ | [kǎ] | ก | แม่กก | k | k | [k] | [k̚] | สูง |
ᨡ | ![]() |
◌᩠ᨡ | ข๋ะ | [xǎ], [kʰǎ] | ข | แม่กก | x, kh | k | [x], [kʰ] | [k̚] | สูง | |
ᨢ[a] | ![]() |
— | ฃ๋ะ | [xǎ] | ฃ | แม่กก | x, kh | — | [x] | [k̚] | สูง | |
ᨣ | ![]() |
◌᩠ᨣ | ก๊ะ | [ka᷇] | ค | แม่กก | k | k | [k] | [k̚] | ต่ำ | |
ᨤ[a] | ![]() |
— | คะ, ฅะ | [xa᷇] | ฅ | แม่กก | x, kh | — | [x] | [k̚] | ต่ำ | |
ᨥ | ![]() |
◌᩠ᨥ | ฆะ | [xa᷇], [kʰa᷇] | ฆ | แม่กก | x, kh | k | [x], [kʰ] | [k̚] | ต่ำ | |
ᨦ | ![]() |
◌᩠ᨦ | งะ | [ŋa᷇] | ง | แม่กง | ng | ng | [ŋ] | [ŋ] | ต่ำ | |
2. วรรค จ | ᨧ | ![]() |
◌᩠ᨧ | จ๋ะ | [t͡ɕǎ] | จ | แม่กด | j, c | t | [t͡ɕ] | [t̚] | สูง |
ᨨ | ![]() |
-᩠ᨨ | ส๋ะ, ฉ๋ะ | [sǎ], [t͡ɕʰǎ] | ฉ | - | s, ch | — | [s], [t͡ɕʰ] | — | สูง | |
ᨩ | ![]() |
-᩠ᨩ | จ๊ะ | [t͡ɕa᷇] | ช | แม่กด | j, c | t | [t͡ɕ] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨪ[a] | ![]() |
— | ซะ | [sa᷇] | ซ | แม่กด | s | t | [s] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨫ | ![]() ![]() ![]() |
-᩠ᨫ | ซะ, ชะ, ฌะ | [sa᷇], [t͡ɕʰa᷄] | ฌ | แม่กด | s, ch | t | [s], [t͡ɕʰa᷄] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨬ | ![]() |
-᩠ᨬ | ญะ
(เสียงนาสิก) |
[ɲa᷇] | ญ | แม่กน | ny, y | n | [ɲ], [j][b] | [n] | ต่ำ | |
3. วรรค ฏ | ᨭ | ![]() |
-᩠ᨭ | ระฏ๋ะ | [lǎ.tǎ] | ฏ, ฎ | แม่กด | t | t | [t] | [t̚] | สูง |
ᨮ | ![]() ![]() |
-᩠ᨮ , -ᩛ[c] | ระฐ๋ะ | [lǎ.tʰǎ] | ฐ | แม่กด | th | t | [tʰ] | [t̚] | สูง | |
ᨯ | ![]() |
-᩠ᨯ | ระฑะ, ด๊ะ | [dǎ] | ฎ, ฑ, ด | แม่กด | d, th[d] | t | [d], [tʰ][d] | [t̚] | กลาง | |
ᨰ | ![]() |
-᩠ᨰ | ระฒะ | [lǎ.tʰa᷇] | ฒ | แม่กด | th | t | [tʰ] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨱ | ![]() |
-᩠ᨱ | ระณะ | [lǎ.na᷇] | น | แม่กน | n | n | [n] | [n] | ต่ำ | |
4. วรรค ต | ᨲ | ![]() |
-᩠ᨲ | ต๋ะ | [tǎ] | ต | แม่กด | t | t | [t] | [t̚] | สูง |
ᨳ | ![]() |
-᩠ᨳ | ถ๋ะ | [tʰǎ] | ถ | แม่กด | th | t | [tʰ] | [t̚] | สูง | |
ᨴ | ![]() |
-᩠ᨴ | ต๊ะ | [ta᷇] | ท | แม่กด | t | t | [t] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨵ | ![]() |
-᩠ᨵ | ธะ | [tʰa᷇] | ธ | แม่กด | th | t | [tʰ] | [t̚] | ต่ำ | |
ᨶ | ![]() |
-᩠ᨶ | นะ | [na᷇] | น | แม่กน | n | n | [n] | [n] | ต่ำ | |
5. วรรค ป | ᨷ | ![]() |
-᩠ᨷ , -ᩝ | บ๋ะ [a] | [bǎ] | บ | แม่กบ | b | p | [b][e] | [p̚] | กลาง |
-᩠ᨷ | ป๋ะ[f] | [pǎ] | ป | แม่กบ | p | p | [p][f][9][10] | [p̚] | สูง[10][9] | |||
ᨸ[a][g] | ![]() |
– | ป๋ะ | [pǎ] | ป | แม่กบ | p | p | [p] | [p̚] | สูง | |
ᨹ | ![]() |
-᩠ᨹ | ผ๋ะ | [pʰǎ] | ผ | - | ph | – | [pʰ] | – | สูง | |
ᨺ[a] | ![]() |
– | ฝ๋ะ | [fǎ] | ฝ | - | f | – | [f] | – | สูง | |
ᨻ | ![]() |
-᩠ᨻ , -ᩛ[c] | ป๊ะ | [pa᷇] | พ | แม่กบ | p | p | [p] | [p̚] | ต่ำ | |
ᨼ[a] | ![]() |
– | ฟะ | [fa᷇] | ฟ | แม่กบ | f | p | [f] | [p̚] | ต่ำ | |
ᨽ | ![]() |
-᩠ᨽ | ภะ | [pʰa᷇] | ภ | แม่กบ | ph | p | [pʰ] | [p̚] | ต่ำ | |
ᨾ | ![]() |
-᩠ᨾ , -ᩜ | มะ | [ma᷇] | ม | แม่กม | m | m | [m] | [m] | ต่ำ | |
6. อวรรค | ᨿ | ![]() |
-᩠ᨿ | ญะ
(เสียงนาสิก) |
[ɲa᷇] | ย | แม่เกย | ny, y | – | [ɲ], [j][b] | – | ต่ำ |
ᩀ[a] | ![]() |
– | ยะ, อยะ | [jǎ] | อย | - | y | – | [j] | – | กลาง | |
ᩁ[h] | ![]() |
-᩠ᩁ , -ᩕ | ระ, ละ, ฮะ | [la᷇] | ร, ล, ฮ | แม่กน | r,[i] l, h | n | [r],[d] [l],[d] [h] | [n] | ต่ำ | |
ᩃ | ![]() |
-᩠ᩃ​ , -ᩖ | ละ | [la᷇] | ล | แม่กน | l | n | [l] | [n] | ต่ำ | |
ᩅ | ![]() |
-᩠ᩅ | วะ | [wa᷇] | ว | แม่เกอว | w | – | [w] | – | ต่ำ | |
ᩆ | ![]() |
-᩠ᩆ | ศ๋ะ | [sǎ] | ศ | แม่กด | s | t | [s] | [t̚] | สูง | |
ᩇ | ![]() |
-᩠ᩇ | ษ๋ะ | [sǎ] | ษ | แม่กด | s | t | [s] | [t̚] | สูง | |
ᩈ | ![]() |
-᩠ᩈ , -ᩞ | ส๋ะ | [sǎ] | ส | แม่กด | s | t | [s] | [t̚] | สูง | |
ᩉ | ![]() |
-᩠ᩉ | หะ | [hǎ] | ห | - | h | – | [h] | – | สูง | |
ᩊ | ![]() |
-᩠ᩊ | ฬะ | [la᷇] | ฬ | แม่กน | l | n | [l] | [n] | ต่ำ | |
ᩋ | ![]() ![]() |
-ᩬ | อ๋ะ | [ʔǎ] | อ | - | – | – | [ʔ] | – | กลาง | |
ᩌ[a] | ![]() |
– | ฮะ | [ha᷇] | ฮ | - | h | – | [h] | – | ต่ำ |
logo

เฮา
อักษรธรรมล้านนา ตัวธัมม์ หรือ ตั๋วธรรม (ᨲ᩠ᩅᩫᨵᨾ᩠ᨾ᩼ หรือ ᨲ᩠ᩅᩫᨵᩢᨾ᩠ᨾ᩼) ตั๋วเมือง (ᨲ᩠ᩅᩫᨾᩮᩬᩥᨦ; )
ฝึกเขียนอักษรล้านนา | หอศิลปะมรดกกวีล้านนา
ฝึกเขียนอักษรล้านนา
ฝึกเขียนอักษรธรรมล้านนา ᨲ᩠ᩅᩫᨵᩢᨾ᩠ᨾ᩼
ฝึกเขียนอักษรธรรมล้านนา
ใช้ปุ่ม "ก่อนหน้า" และ "ถัดไป" เพื่อเลือกพยัญชนะ
พยัญชนะปัจจุบัน:
-
ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานคู่เมืองลำพูน
Cr. ภาพจาก Travel 360
ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานคู่เมืองลำพูน
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งตระหง่านใจกลางเมืองลำพูน เป็นปูชนียสถานสำคัญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวล้านนามาอย่างยาวนานนับพันปี ประวัติศาสตร์แห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย ผู้ทรงสถาปนาพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา บริเวณที่ตั้งขององค์พระธาตุในปัจจุบัน เดิมเป็นพระราชฐานของพระเจ้าอาทิตยราช และมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกี่ยวกับฝูงกาที่มาขัดขวางการสร้างห้องบังคน (ห้องน้ำ) ของพระองค์ จนกระทั่งได้มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ ณ สถานที่แห่งนั้น พระเจ้าอาทิตยราชจึงทรงมีพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้า สละพื้นที่ในพระราชวังของพระองค์เพื่อสร้างพระเจดีย์ครอบพระบรมสารีริกธาตุไว้
การก่อสร้างและสถาปัตยกรรมในยุคแรก
พระเจดีย์องค์เดิมที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราชนั้น สันนิษฐานว่ามีลักษณะเป็นสถูปทรงปราสาทสี่เหลี่ยม ก่อด้วยศิลาแลง ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอมที่แพร่หลายในยุคนั้น ภายในองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่างๆ ได้แก่ พระธาตุกระหม่อม พระธาตุกระดูกอก พระธาตุกระดูกนิ้วมือ และพระธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง
การบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญและการเปลี่ยนแปลงสู่เจดีย์ทรงลังกา
วัดพระธาตุหริภุญชัยได้รับการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์โดยกษัตริย์ผู้ครองนครในยุคต่อๆ มาหลายพระองค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในสมัยพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา หลังจากที่ทรงยึดเมืองหริภุญชัยได้ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะองค์พระธาตุ โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากทรงปราสาทแบบขอมให้เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยนั้น
ต่อมาในสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ในราวปี พ.ศ. 1990 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยทรงก่อพระเจดีย์ให้สูงใหญ่และงดงามขึ้นดังที่ปรากฏในปัจจุบัน คือ เป็นเจดีย์สีทองอร่ามทรงระฆังคว่ำแบบลังกา ตั้งอยู่บนฐานปัทม์ย่อเก็จ มีสัตติบัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) ล้อมรอบ 2 ชั้น ความสูงขององค์พระธาตุจากฐานถึงยอดฉัตรในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 46 เมตร
ปูชนียวัตถุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด
นอกเหนือจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์แล้ว ภายในวัดพระธาตุหริภุญชัยยังมีปูชนียวัตถุและสถาปัตยกรรมที่สำคัญและงดงามอีกมากมาย อาทิ:
วิหารหลวง: เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ หลายองค์
ซุ้มประตูโขง: เป็นซุ้มประตูทางเข้าวัดที่เก่าแก่และมีความวิจิตรงดงาม สร้างด้วยอิฐถือปูนประดับลวดลายปูนปั้น เป็นฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัย ด้านหน้ามีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนสง่า
พระสุวรรณเจดีย์ (เจดีย์ปทุมวดี): ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระธาตุ สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม คล้ายกับเจดีย์กู่กุด (วัดจามเทวี)
หอกังสดาล: เป็นหอสูงสองชั้น ใช้สำหรับแขวนกังสดาลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของวัด
วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวลำพูนและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ แต่ยังเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรหริภุญชัยและล้านนาในอดีต ในทุกๆ ปีช่วงวันเพ็ญเดือน 6 จะมีการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ซึ่งเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่และดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้เดินทางมาสักการะองค์พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไป