logo

เฮา

เฮาบ่ฮัก ไผจะมาฮัก เฮาบ่เฮียน ไผจะมาเฮียน เฮาบ่สืบ ไผจะมาสืบ  

ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานคู่เมืองลำพูน

 

Cr. ภาพจาก Travel 360

          ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานคู่เมืองลำพูน


วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งตระหง่านใจกลางเมืองลำพูน เป็นปูชนียสถานสำคัญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวล้านนามาอย่างยาวนานนับพันปี ประวัติศาสตร์แห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย ผู้ทรงสถาปนาพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


ตามตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา บริเวณที่ตั้งขององค์พระธาตุในปัจจุบัน เดิมเป็นพระราชฐานของพระเจ้าอาทิตยราช และมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกี่ยวกับฝูงกาที่มาขัดขวางการสร้างห้องบังคน (ห้องน้ำ) ของพระองค์ จนกระทั่งได้มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ ณ สถานที่แห่งนั้น พระเจ้าอาทิตยราชจึงทรงมีพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้า สละพื้นที่ในพระราชวังของพระองค์เพื่อสร้างพระเจดีย์ครอบพระบรมสารีริกธาตุไว้


      การก่อสร้างและสถาปัตยกรรมในยุคแรก      


พระเจดีย์องค์เดิมที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราชนั้น สันนิษฐานว่ามีลักษณะเป็นสถูปทรงปราสาทสี่เหลี่ยม ก่อด้วยศิลาแลง ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอมที่แพร่หลายในยุคนั้น ภายในองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่างๆ ได้แก่ พระธาตุกระหม่อม พระธาตุกระดูกอก พระธาตุกระดูกนิ้วมือ และพระธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง


      การบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญและการเปลี่ยนแปลงสู่เจดีย์ทรงลังกา      


วัดพระธาตุหริภุญชัยได้รับการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์โดยกษัตริย์ผู้ครองนครในยุคต่อๆ มาหลายพระองค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในสมัยพญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา หลังจากที่ทรงยึดเมืองหริภุญชัยได้ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะองค์พระธาตุ โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากทรงปราสาทแบบขอมให้เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยนั้น


ต่อมาในสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ในราวปี พ.ศ. 1990 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยทรงก่อพระเจดีย์ให้สูงใหญ่และงดงามขึ้นดังที่ปรากฏในปัจจุบัน คือ เป็นเจดีย์สีทองอร่ามทรงระฆังคว่ำแบบลังกา ตั้งอยู่บนฐานปัทม์ย่อเก็จ มีสัตติบัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) ล้อมรอบ 2 ชั้น ความสูงขององค์พระธาตุจากฐานถึงยอดฉัตรในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 46 เมตร


      ปูชนียวัตถุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด      


นอกเหนือจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์แล้ว ภายในวัดพระธาตุหริภุญชัยยังมีปูชนียวัตถุและสถาปัตยกรรมที่สำคัญและงดงามอีกมากมาย อาทิ:


          วิหารหลวง:       เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ หลายองค์

          ซุ้มประตูโขง:       เป็นซุ้มประตูทางเข้าวัดที่เก่าแก่และมีความวิจิตรงดงาม สร้างด้วยอิฐถือปูนประดับลวดลายปูนปั้น เป็นฝีมือช่างโบราณสมัยศรีวิชัย ด้านหน้ามีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนสง่า

          พระสุวรรณเจดีย์ (เจดีย์ปทุมวดี):       ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระธาตุ สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม คล้ายกับเจดีย์กู่กุด (วัดจามเทวี)

          หอกังสดาล:       เป็นหอสูงสองชั้น ใช้สำหรับแขวนกังสดาลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของวัด


วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวลำพูนและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ แต่ยังเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรหริภุญชัยและล้านนาในอดีต ในทุกๆ ปีช่วงวันเพ็ญเดือน 6 จะมีการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ซึ่งเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่และดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศให้เดินทางมาสักการะองค์พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไป